Topics
ความรู้ทางด้านจิตวิญญาณ
ได้รับการสืบทอดโดยผู้สืบเชื้อสายทางจิตวิญญาณ
เช่นเดียวกับความมั่งคั่งทางโลกของพ่อ สืบทอดและแบ่งสรรโดยลูกๆ
ตามระบบของโลกทางวัตถุ แบบแผนความคิดของพ่อแม่จะถ่ายทอดมายังลูกๆ
และยังคงอยู่ในการแสวงหาความมั่งคั่ง
และความร่ำรวยดังกล่าวด้วยการคำนึงถึงและให้ความพึงพอใจต่อประโยชน์ทางโลกเหมือนพ่อแม่ของพวกเขา
ซึ่งตรงข้ามกับลูกๆ ของพ่อทางจิตวิญญาณ
ซึ่งไม่ได้ให้ความสำคัญกับความร่ำรวยและความมั่งคั้งในทางโลก
ความสนใจในโลกนี้ของพวกเขา
ยังคงจำกัดขอบเขตอยู่ในการบรรลุความต้องการทางโลกตามปกติเท่านั้น
และแม้ในขอบเขตดังกล่าว พวกเขาก็ยังเชื่อว่าพระเจ้าเป็นผู้ประทานปัจจัยยังชีพให้
และเป็นผู้อนุมัติช่องทางในการบรรลุความปรารถนานั้น
ส่วนผสมของการเข้าใกล้ทั้งสองด้าน
ซึ่งคุณค่าทางจิตวิญญาณผสมปนเปกับความทะเยอทะยาน
และความละโมบทางโลกีย์วิสัยต่อกาได้รับวัตถุนั้นในเชิงรหัสยนิยมเรียกว่ เวทมนตร์
คาถา เวทมนตร์คาถาคือความรู้ที่ถ่ายทอดจากครูไปยังศิษย์เหมือนกับศาสตร์ทงด้านจิตวิญญาณ
แต่ใช้ไปเพื่อผลประโยชน์ทางวัตถุและทางโลก เวทมนตร์และศาสตร์ลึกลับที่คล้ายกัน
วางอยู่บนการเข้าใกล้ความคิดที่ชั่วร้ายของมาร และศาสตร์ทางจิตวิญญาณคือ
ความรู้ที่ถ่ายทอด
จากครูไปยังผู้สัมพันธ์ทางจิตวิญญาณ
ตามแบบแผนความคิดของผู้ให้คำชี้แนะ
โลกทางวัตถุนี้มีคุณค่าเพียงการดำรงอยู่แบบมารยาทคติ และเป็นข้อสมมตเท่านั้น
ศาสตร์ทางจิตวิญญาณมี 2
ประเภท คือเวทมนตร์คาถา และความรู้ซึ่งนำเสนอให้ ศาสตร์
และศิลปะเหล่านั้นทั้งหมดที่ได้รับภายหลังการกระตุ้นศักยภาพในด้านความชั่วร้าย
และผ่านทางการเข้าใกล้ความคิดที่เป็นคุณสมบัติของมารคือ เวทมนตร์คาถา
ซึ่งถ่ายทอดโดยการสืบต่อของลูกศิษย์ เหมือนกับศาสตร์ทางจิตวิญญาณอื่นทั้งหมด
ในการเรียนรู้ศาสตร์ลึกลับและเวทมนตร์คาถาผู้เรียนต้องผ่านการกฝึกฝนที่มีความบากบั่นอย่างอดทนและเข้มงวด
พวกพ่อมดหมอผีสามารถแสดงกิจกรรมเหนือธรรมชาติได้เช่นกัน
เหมือนที่บางครั้งเกิดขึ้นกับบุคคลทางด้านจิตวิญญาณในกรณีดังกล่าวเรียกว่า
ความมหัศจรรย์หรือการแสดงปาฏิหาริย์(กะรอมัต)
ความมหัศจรรย์ที่เกิดขึ้นภายใต้อิทธิพลของความรู้ทางจิตวิญญาณและการแสดงกิจกรรมเหนือธรรมชาติ
ต่างได้รับการพิสูจน์โดยคัมภีร์อัลกุรอาน
ในเรื่องราวของศาสดาโมเสส
(มูซา) คัมภีร์อัลกุรอานกุรอานกล่าวอย่างละเอียดว่า ฟาโรห์ (ฟิรอูน)
ออกคำสั่งให้นักมายากกลผู้เก่งกาจทั้งหมดในอาณาจักรมาชุมนุมกันในวันนัดหมาย ณ
สนามขนาดใหญ่ที่นักมายากล และพ่อมดหมอผีมารวมตัวกันเพื่อประลองกับโมเสสซึ่งอยู่ที่นั่นด้วย
เพื่อนำการแสดงของพวกเขาออกมาพวกนักมายากลถามโมเสส ว่าจะเป็นฝ่ายเริ่มก่อน
หรือพวกเขาจะเป็นฝ่ายเริ่มก่อน โมเสสศาสดาผู้สูงส่งกล่าวว่า
“โอ้ นักมายากล
ทั้งหลาย พวกท่านเริ่มก่อน”
บรรดาพ่อมดหมอผีจึงโยนเชือกของพวกตน
และท่อนไม้ซึ่งกลายเป็นงู และงูยักษ์ โมเสสรู้สึกตกใจ พระเจ้าผู้ทรงเมตตายิ่ง
จึงกล่าวว่า
“โอ้ โมเสส
อย่าหวาดกลัว ฉันอยู่กับเจ้า จงโยนไม้เท้าของเจ้า”
โมเสส ได้โยนไม้เท้าของเขาลงบนพื้น
ซึ่งเปลี่ยนเป็นงูยักษ์และกลืนกินงูและงูยักษ์ที่นักมายากลประดิษฐ์ขึ้น และในวิธีทางเช่นนี้
ความรู้ซึ่งนำเสนอให้มีชัยเหนือพวกพ่อมดหมอผีและนักมายากลที่เชี่ยวชาญ
แต่ควรจะสังเกตุว่า เมื่อนักมายากลโยนเชือกและไม้เท้า
สิ่งเหล่านั้นก็เปลี่ยนเป็นงูและงูยักษ์
และเมื่อโมเสสโยนไม้เท้าก็เปลี่ยนเป็นงูยักษ์เช่นกัน ถ้าจะมีความแตกต่างใดๆ
ในการกระทำของนักมายากลและโมเสสก็คือ
ไม้เท้าของโมเสสมีอำนาจเหนือกว่าหลังจากกลืนกินงูและงูยักษ์ที่พ่อมดมดผีสร้างขึ้น
ความแตกต่างระหว่างนักมายากลกับโมเสสคือ โมเสส
มีพระเจ้าอยู่ฝ่ายเขาซึ่งทำให้ได้เปรียบ พูดง่ายๆ
คือความเลื่อมใสศรัทธาในความรู้นั้น เป็นเรื่องปกติทั้งสองประเภท
ประเภทหนึ่งพื้นฐานของความรู้คือความปรารถนาในทรัพย์สิน
ต้องการฐานนันดรและเกียรติยศ รวมทั้งต้องการการยกย่องสรรเสริญทางโลก
ในอีกประการประเภทหนึ่ง ความรู้แห่งความเป็นจริงบอกว่า
ความเป็นจริงมิใช่อื่นใดนอกจากพระเจ้า ผู้มีความรู้ในความเป็นจริงทั้งหมด ไม่ได้เห็นสิ่งใดเลยนอกจากความเป็นจริง
ไม่มีความทะเยอทะยานในเกียรติยศ ทรัพย์สินและผลประโยชน์ทางโลก และจิตใจของเขา
ไม่เคยเข้าไปสู่ความรู้สึกที่อยากแสดงกิจกรรมเหนือธรรมชาติออกมาเพื่อให้ประทับใจผู้คน
และได้รับการยกย่องสรรเสริญ ขณะที่ตรงข้ามกับพ่อมดหมอผี พวกเขาต้องการได้รับผลประโยชน์เกี่ยวกับการดำรงชีพในโลกนี้
ด้วยการแสดงความสามารถทางเวทมนตร์คาถาของตนออกมา
สิ่งนี้ก็ได้รายงานไว้ในคัมภีร์อัล กุรอานเช่นกัน ฟาโรห์เรียกพวกนักมายากลมาประชุม
ถ้าปราบโมเสสได้ พวกเขาจะได้รับรางวัลตอบแทนด้วยทรัพย์สมบัติ และตำแหน่งในราชสำนึก
สิ่งนี้เพียงพอที่จะแสดงให้เห็นว่า กลอุบาย
และการแสดงฝีมือทั้งหมดของนักมายากลล้วนแสดงออกมาจากแรงกระตุ้นของความต้องการได้รับผลประโยชน์ทางโลก
ขณะที่ไม่มีอะไรทำนองนั้น เกิดขึ้นกับโมเสสก่อนที่จะเข้าไปยังสถานที่แข่งขันเลย
โมเสส อยู่ที่นั่นเพื่อพิสูจน์อำนาจของความเป็นจริงที่เหนือกว่า
เพื่อประกาศความสูงส่ง และความศักดิ์สิทธิ์ของพระเจ้า และเพื่อแสดงให้เห็นว่า
ความรู้ของความชั่วร้ายเป็นสิ่งผิดพลาดไร้สาระและไม่สมเหตุสมผลเมื่อเปรียบเทียบกับความรู้แห่งความเป็นจริง
ดำรัสอันศักดิ์สิทธิ์ของพระเจ้าทรงกล่าวว่า
“อย่าหวาดกลัว จงโยนไม้เท้าของเข้า”
ชี้ให้เห็นว่าโมเสส
ไม่พร้อมที่จะประชันฝีมือ แสดงความมหัศจรรย์กับนักมายากล
และเขาอยู่เผชิญหน้ากับพ่อมดหมอผีที่มีพลังอำนาจที่นั่น
ด้วยการมีศรัทธาและพึ่งพาอาศัยพระเจ้า ผู้ทรงเป็นที่พึ่งพาอาศัยยิ่ง
ยิ่งกว่านั้นเชือกและไม้เท้าที่นักมายากลขว้าง จนกลายเป็นงูและงูยักษ์ล้วนเป็นมายาคติ
และภาพลวงตาทั้งสิ้น เพราะเมื่อโมเสสขว้างไม้เท้าของเขากลับไป
ทั้งหมดนั้นก็อันตรธานไปราวกับไม่เคยปรากฏมาก่อน
ขณะที่เมื่อโมเสสเอาไม้เท้ากลับคืนมาก็กลายเป็นไม้เท้าตามเดิม
ความแตกต่างระหว่างมายากลกับความมหัศจรรย์
ก็คือสิ่งแรกมีชีวิตสั้นและไม่จีรัง
กฏ
ความเป็นจริงยังคงไม่เปลี่ยนแปลงและ
ความเป็นจริงยังคงเป็นความเป็นจริงภายใต้ทุกสิ่งแวดล้อม
งู และ งูยักษ์
ที่วางแผนไว้ตามมายากล และเวทมนตร์ คาถาถูกทำลายไป และไม้เท้าของโมเสสยังคงอยู่
ในกรณีนี้มีบทเรียนสำหรับนักศึกษาด้านจิตวิญญาณ
ถ้าการเข้าใกล้ความคิดไม่ใช่ความเป็นความจริง และไม่วางอยู่บนความเป็นจริง
จะไม่จีรังและมีชีวิตสั้น
และถ้าการเข้าใกล้ความคิดวางอยู่บนความเป็นจริง
ก็จะเป็นจริงและความเป็นจริงมีค่าคงที่ไม่มีความเปลี่ยนแปลง
เมื่อพ่อมดหมอผี
สอนเวทมนตร์คาถาให้ลูกศิษย์ และถ่ายทอดความคิดให้ลูกศิษย์ก็จะกลายเป็นครู
แต่ยังคงแยกจากความเป็นจริง แต่เมื่อบุคคลเรียนรู้ตามการเข้าใกล้แบบศาสดา
เขาจะสวมกอดกับความเป็นจริง ภายหลังตระหนักในความจริงดังกล่าวแล้ว
ประวัติศาสตร์มนุษยชาติ
ไม่สามารถนำเสนอได้แม้เพียงตัวอย่างเดียวเกี่ยวกับบุคคลที่เปลี่ยนแปลงหรือแสดงความโน้มเอียงไปสู่เวทมนตร์คาถาหลังจากที่มีการเข้าใกล้ความคิดที่เป็น
จริง ขณะที่มีตัวอย่างนับเป็นพันตัวอย่างที่พ่อมดหมอผีที่ยิ่งใหญ่และนักมายากลผู้เชี่ยวชาญ
เปลี่ยนสภาพเป็นผู้สำนึกผิดต่อความรู้ของตนและเข้ารับอิสลามเมื่อตระหนักในความเป็นจริง
ผู้ให้คำปรึกษาหรือครูทางจิตวิญญาณเหมือนกับกูรู
พวกเขาต่างป้อนความรู้ให้ลูกศิษย์ ความแตกต่างอยู่ในการเข้าใกล้ความคิดของพวกเขา
ถ้าครูมีการเข้าใกล้ความชั่วร้าย ก็จะผ่านสิ่งนั้นไปให้ลูกศิษย์
และถ้าครูมีการเข้าใกล้ความคิดวางอยู่บนความเป็นจริง
การเข้าใกล้นี้สามารถทำให้ลูกศิษย์มีความคุ้นเคยกับพระเจ้าผู้ทรงปรานียิ่ง
การเข้าใกล้ความคิดดังกล่าวนี้สามารถทำให้บุคคลมองเห็นพระเจ้าได้ทีละขั้นทีละตอน
บนเส้นทางของศักยภาพเชิงสัมพันธ์ทางจิตวิญญาณและการสื่อสารกับพระเจ้า
ผู้ทรงสูงส่งยิ่ง ทำให้เขาสามารถเป็นมิตรของพระเจ้า
ซึ่งเป็นมิตรที่ไม่มีความหวาดกลัวและโศกเศร้าเสียใจ
ควาญะฮ ชัมซุดดีน อะซีมี
และถูกนำเสนอในเชิงวิทยาศาสตร์ที่มีชื่อเสียงในระดับสากล
คนส่วนใหญ่รู้จักควาญะฮ์ชัมซุดดีน
อะซีมี เพราะรูปแบบการเขียนที่เป็นเลิศ ท่านเป็นเจ้าของหนังสือมากกว่า 13 เล่ม
รวมทั้งแผ่นพับ และเอกสารต่างๆ อีกมากมาย ซึ่งพูดถึงขอบข่ายความรู้สึกทางด้านอภิปรัชญา
นอกจากกลวิธีการเขียนที่ดีเลิศแล้ว
สำนวนภาษาที่ใช้ยังง่ายต่อความเข้าใจของคนทั่วไปด้วย
ผลงานของท่านในการสร้างความเป็นวิทยาศาสตร์
และความเป็นสถาบันให้กับองค์ความรู้เก่าแก่ ที่ท่านรับมาจากครูของท่าน
ไม่อาจกล่าวเป็นอื่นได้นอกจากความโดดเด่นน่าสนใจ
ควาญะฮ์ ชัมซุดดีน
อะซีมี ซึ่งได้รับการฝึกฝนจากครูของท่านคือท่าน กอลันดาร บาบา เอาลิยาอ์