Topics
หนทางของเราไปสู่ความจริงนี้เป็นไปได้ทางเดียว
เมื่อเรารู้ว่าภาพชีวิตนี้ ไม่ใช่ “ร่างกาย” แต่เป็นจิตสำนึก เราไม่มีอีสระเสรีที่จะเรียกมันว่าจิตสำนึก
เพียง เพราะว่าจิตสำนึกคือมัชฉิมของการหาเอกลักษณ์แห่งตัวเอง ชิงครอบครองคฤหาสน์
แห่งชีวิตทั้งหมดของเราเอาไว้ด้วยกัน การสูญสลายของร่างกายไปสู่การสิ้นสภาพ
ของวัตถุที่มีความหนาแน่นและมลภาวะนั้นอยู่ในความรู้ของเรา และเรายังตระหนัก
ความจริงที่ว่า การสูญสลายของร่างกายไม่ได้เป็นสาเหตุให้จิตสำนึกถูกทำลายลง
แต่ในทางตรงกันข้ามจิตสำนึกนั้นถูกส่งผ่านไปยังโลกอื่น
สิ่งหนึ่งที่มีกล่าวไว้ตรงกันและกล่าวอย่างซ้ำๆ
ในบรรดาคัมภีร์คือ มนุษย์มิ ได้เป็นเพียงร่างกาย เนื้อหนังมังสา แต่เป็นความมีจิตสำนึก
เมื่อพิจารณาช่วงชีวิต จากเกิดจนถึงตาย
เราจึงได้รู้ว่าความมีจิตสำนึกคือรากฐานที่ถูกวางลงในครรภ์มารดา
ลดลงในด้านหนึ่งและเพิ่มขึ้นในอีกด้านหนึ่ง จิตสำนึกลดลงมากเท่าใด มนุษย์ก็จะ
ถูกนำพากลับไปยังอดีตมากเท่านั้น ความก้าวหน้าของความมีจิตสำนึกเป็นผลต่อการ
เคลื่อนที่ไปยังอนาคต ปัจจัยของอายุถูกนำมาพิจารณา เพราะการเพิ่มขึ้นหรือลด
ลงของความมีจิตสำนึก ภาวะหนึ่งของความมีจิตสำนึกถูกเรียกว่าความเป็นเด็ก
และอีกภาวะหนึ่งคือวัยหนุ่ม และอีกภาวะหนึ่งคือวัยชรา กล่าวอย่างสั้นๆ
ความมีจิตสำนึก ผดุงชีวิตที่เป็นวัตถุไว้ และด้วยความมีจิตสำนึกนี้ร่างกายได้เกิดขั้นตอนการวิวัฒนา
การขึ้น ตัวมันเองยังคงไม่ถูกกระทบกระเทือนและมั่นคงอยู่
ควาญะฮ ชัมซุดดีน อะซีมี
เมื่อพระประสงค์ของพระเจ้าที่จะให้โครงการจักรวาลเปลี่ยนไปเป็นวัตถุธาตุเกิดขึ้นในจิตของพระองค์
พระองค์เพียงตรัสว่า “จงเป็น”
โครงการจักรวาลนั้นที่ปรากฏขึ้น ในลำดับและการจัดการต่อไปนี้
หนังสือเล่มหนึ่ง
เปิดขึ้นและแสดงอย่างชัดเจน
หนังสือประกอบด้วยบันทึกที่ถูกเก็บไว้จำนวน
300 ล้าน บันทึก
แต่ละบันทึกที่ถูกเก็บไว้ประกอบด้วยแกแล็กซี่
จำนวน 80,000 แกแล็กซี่
แต่ละแกแล็กซี่มีระบบที่เสถียรกว่า
100,000 ล้านระบบ และระบบที่ไม่เสถียรกว่า 1.2 ล้านล้านระบบ
แต่ละระบบมีดวงอาทิตย์และดาวเคราะห์บริวารประมาณ
9-13 ดวงต่อระบบ
เป็นเรื่องเข้าใจผิดและถือเป็นการคาดเดา
ที่กล่าวว่า โลกของเราเท่านั้นที่เป็นโลกแห่งการตั้งถิ่นฐานมนุษย์
มีอาณานิคมและการตั้งถิ่นฐานของมนุษย์และญินในทุกๆ